published on in Informative Details

6 ก.พ. 2548

ทักษิณ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนท่วมท้น กลับมาดำรงตำแหน่งนายกฯ เป็นสมัยที่ 2

1 พ.ย. 2548

สนธิ ลิ้มทองกุล และ จำลอง ศรีเมือง เริ่มเคลื่อนไหวขับไล่ทักษิณ อ้างเรื่องทุจริต ใช้อำนาจไม่ชอบ ปิดกั้นสื่อ และไร้ความสามารถในการแก้ปัญหาชายแดนใต้

23 ม.ค. 2549

ทักษิณเทขายหุ้นในชินคอร์ปให้เทมาเส็กได้เงินมา 7.3 หมื่นล้านบาท สร้างความไม่พอใจให้ชนชั้นกลางไทยเนื่องจากไม่ต้องเสียภาษี

ก.พ. - มี.ค. 2549

ผู้คนนับหมื่นออกไปตามท้องถนนในกรุงเทพฯ เรียกร้องให้ทักษิณลาออก

2 เม.ย. 2549

ทักษิณประกาศยุบสภา จัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งพรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง แต่พรรคฝ่ายค้านหลักไม่ลงแข่ง และประชาชนจำนวนมากกาช่อง “ไม่ประสงค์ลงคะแนน”

8 พ.ค. 2549

ศาล รธน. สั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และจัดการเลือกตั้งใหม่

30 พ.ค. 2549

ครม. มีมติให้จัดการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ในวันที่ 15 ต.ค. 2549

1 พ.ค. 2549

พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ระบุว่า กองทัพจะไม่ทำรัฐประหาร

19 ก.ย. 2549

คณะรัฐประหารนำโดย พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาล ขณะ ทักษิณ อยู่ที่นิวยอร์ก เพื่อเข้าประชุมยูเอ็น

19 ก.ย. 2549

ผู้นำรัฐประหารจัดตั้ง คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) หลังจากนั้น มีอำนาจเด็ดขาดในการรักษาพระนคร กล่าวหารัฐบาลทักษิณว่าก่อให้เกิดปัญหา ความขัดแย้งแบ่งฝ่าย สลายความรู้รักสามัคคีของคนในชาติอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์

20 ก.ย. 2549

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน และผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ เข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานสถานการณ์ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต

1 ต.ค. 2549

พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตองคมนตรี ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

31 ธ.ค. 2549

เกิดเหตุระเบิดอย่างน้อย 6 จุด ใน กทม. มีผู้เสียชีวิต 3 คน และ บาดเจ็บ 30 ในจำนวนนี้ มีชาวต่างชาติอย่างน้อย 8 คน ตำรวจอ้างว่าเป็นฝีมือขบวนการแบ่งแยกดินแดนจากภาคใต้

29 มี.ค. 2550

กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปให้เป็นวันที่ 16 หรือ 23 ธ.ค. 2550

30 พ.ค. 2550

ศาล รธน. สั่งยุบพรรคไทยรักไทยในความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง และตัดสิทธิการเมือง กก.บห.พรรค 111 คน

19 ส.ค. 2550

รัฐธรรมนูญ 2550 ผ่านการลงประชามติ

23 ธ.ค. 2550

สมัคร สุนทรเวช นำพรรคพลังประชาชน ร่างใหม่ของไทยรักไทย คว้า 228 เก้าอี้ ในศึกเลือกตั้งทั่วไปชิง 480 ที่นั่ง โดยพรรคประชาธิปัตย์ ตามมาอันดับ 2 คว้าไป 165 ที่นั่ง

29 ม.ค. 2551

พรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคเล็ก โดยมี สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ และ ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน

28 ก.พ. 2551

ทักษิณกลับไทย

25 พ.ค. 2551

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เริ่มชุมนุมใหญ่ขับไล่ สมัคร สุนทรเวช ออกจากตำแหน่งนายกฯ เพราะมองว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนกับทักษิณ ชินวัตร

1 ส.ค. 2551

ทักษิณ และครอบครัวหนีไปอังกฤษ หลังไม่ปรากฏตัวต่อศาลในคดีทุจริต

ส.ค. - ธ.ค. 2551

การชุมนุมขยายวง พธม. บุกยึดทำเนียบรัฐบาล สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสนามบิน 2 แห่งในกรุงเทพฯ

9 ก.ย. 2551

ศาล รธน. สั่งให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของสมัครสิ้นสุดลง เนื่องจากรายการทำกับข้าวทางโทรทัศน์

17 ก.ย. 2551

สมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยของ ทักษิณ ขึ้นเป็นนายกฯ แทน ท่ามกลางการประท้วงของ พธม.

1 ต.ค. 2551

ศาลสั่งจำคุกทักษิณ 2 ปี ในข้อหาทุจริต แม้เจ้าตัวอยู่ต่างแดน

26 พ.ย. 2551

พธม. เข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิ

2 ธ.ค. 2551

ศาล รธน. สั่งยุบพรรคพลังประชาชน เนื่องจากการทุจริตการเลือกตั้งของ ยงยุทธ ติยะไพรัช และตัดสิทธิทางการเมือง กก.บห.พรรค 37 คน ทำให้ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ

15 ธ.ค. 2551

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชนะการโหวตในสภาได้เป็นนายกฯ หลังเกิดการ “พลิกขั้วทางการเมือง" จากการมี ส.ส. รัฐบาลเดิมบางส่วน ประกอบด้วย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคมัชฌิมาธิปไตย และกลุ่ม "เพื่อนเนวิน” อดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชนร่วมโหวตสนับสนุน

มี.ค. - พ.ค. 2553

ผู้สนับสนุนทักษิณ “กลุ่มคนเสื้อแดง” นับหมื่นชุมนุมต่อเนื่องในกรุงเทพฯ เรื่องร้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่ นำไปสู่การสลายการชุมนุมโดยกองทัพ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 91 คน

1 ก.ค. 2554

พรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ทำให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ

22 พ.ค. 2557

คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาล หลังเกิดการชุมนุมขนาดใหญ่โดย กปปส. ซึ่งมีจุดเริ่มต้นแรกเพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ก่อนพัฒนาสู่ประเด็นขับไล่รัฐบาล

ncG1vNJzZmivp6x7o67CZ5qopV%2BptaK1jm5vbm1ia316